วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กินลม.ชมวิว.ชิวๆ..ที่...สวนผึ้ง


"สวนผึ้ง"
คิดไว้นานมาแล้ว ว่ายังไงก็ต้องหาโอกาสมาให้ได้
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นแกะตัวเป็นๆ เลยนี่

และแล้วก็เหมือนเดิมค่ะ
เพื่อความคุ้มค่า ไหนๆ ก็ขับรถมากรุงเทพแล้ว
ขากลับพวกเราแวะได้ค่ะ

พวกเรามีโอกาสได้ไปสวนผึ้งช่วงเดือนกันยายนค่ะ
อากาศเหรอคะ ช่างสบายค่ะ 
ขนาดไปถึงตั้งแต่ประมาณ 8 โมงเช้านะคะ
ความรู้สึกเหมือนอยู่ กลางทะเลทรายเลยค่ะ อิอิ
(ก็อากาศประเทศไทยนี่เนอะ เอาแน่เอานอนไม่ได้)

สวนผึ้ง เป็นชื่ออำเภอ ในจังหวัดราชบุรีค่ะ
คุณชายเคยพูดให้ฟังว่า
"สวนผึ้งนี่นะ นายอำเภอเค้าอ่ะเก่งมาก ดูสิจากอำเภอที่ไม่มีอะไร
เค้าสามารถสร้างให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตได้
แล้วแกะนะ ในประเทศไทย ยังไม่ค่อยจะมี
ประกอบกับสวนผึ้งเป็นอำเภอที่มีสภาพอากาศค่อนข้างหนาวด้วย
บลาๆๆๆๆๆ"
หลักการเต็มเลยค่ะ แต่ก็จริงค่ะ

เอาล่ะค่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว 
เมื่อพวกเราเข้าสู่เขตอำเภอสวนผึ้งแล้ว
สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ คือ ร้อน...... ค่ะ
แต่เพื่อน้องแกะ... พวกเราทนได้

อันดับแรกเลยค่ะ พวกเราแพลนกันว่า..จะไป 
บ้านหอมเทียน 
The Scenery Vintage Farm
อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง
ครัวม่อนไข่

แค่ 4 ที่ค่ะ เรามีเวลาถึงประมาณบ่าย
แล้วต้องเดินทางต่อไปหัวหินค่ะ

เมื่อเราได้รายชื่อสถานที่แล้ว
พวกเราใช้ระบบนำทางค่ะ ของโปรแกรม Sygic
สถานที่แรกเลย บ้านหอมเทียนค่ะ

แต่ด้วยความที่พวกเราไว้ใจโปรแกรมมากเกินไป 
คนนึงขับรถ อีกคนมัวดูแผนที่ จนลืมดูข้างทาง
แล้วก็ได้เรื่องจนได้..... --!
เมื่อระบบนำทาง พาเราเขาหาภูเขาเรื่อยๆ 
ผ่านสวนของชาวบ้าน
ทางลูกรัง
จนถึงฟาร์มข้าวโพด งงค่ะ แต่ไม่มีชาวบ้านให้ถามเลย
ระบบนำทางยังบอกให้ไปข้างหน้าต่อ
โชคดีที่เจอพี่่บุรุษไปรษณีย์ค่ะ

พอถามทางเท่านั้นล่ะค่ะ
พี่เค้าหัวเราะ แล้วบอกว่า
"น้องครับ บ้านหอมเทียนอยู่ติดถนนใหญ่
น้องผ่านมาแล้วนะเมื่อกี๊
น้องมาทางนี้ได้ยังไง น้องรู้มั๊ย 
นี่จะถึงเขากระโจมแล้วจะเข้าเขตพม่าแล้ว"

งานนี้มีเงิบค่ะ ... หึ Sygic พวกเราไม่ไว้ใจแกอีกแล้ว เชอะ...
พวกเราได้แต่หัวเราะค่ะ แล้วก็รีบขอบคุณพี่ไปรษณีย์
แล้วรีบกลับรถ ออกมาอย่างรวดเร็ว
ทั้งอาย ทั้งรับเลยค่ะ อิอิ

จริงๆ แล้วพวกเรากลับรถออกมาทางเดิมไม่ถึง 5 นาที
ก็เจอบ้านหอมเทียนแล้วค่ะ เหอๆ
ถึงแล้ว... ถ่ายรูปค่ะ


บ้านหอมเทียน เป็นสถานที่ที่ขายของที่ระลึกมากมาย
มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะแยะเลยค่ะ
รวมถึงมีการสาธิตการทำเทียนรูปต่างๆ ด้วยค่ะ
สรุปโดยรวม... ชอบค่ะ ^^

ภายในร้านจะแบ่งเป็นซุ้มๆ มีทางเดินตรงกลาง
แต่ละซุ้ม ขายของแตกต่างกันไป
เช่น กระเป๋าวินเทจ เทียน ตุ๊กตา ฯลฯ

อีกมุมค่ะ


นี่ค่ะ เทียนรูปแกะและเฟอร์บี้ เป็นงานแฮนเมดค่ะ


คำว่า "LOVE" ด้านหลังนั้นก็เป็นเทียนค่ะ 

รวมถึงมีภาพเก่าๆ ให้ชมมากมายค่ะ
อันนั้นเป็นมุมของ พระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงและพระราชินีค่ะ

ป้ายทะเบียนเก่าๆ ก็มีเยอะเลยค่ะ
(@หัวหน้าเผ่า --> 1452 ไม่มีนะ ไม่ต้องถาม 
ไม่ดักก่อนนี่ถามแน่ๆ อิอิ )

ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ ค่ะ

มอเตอร์ไซต์รุ่นเก่าก็มีนะคะ

มุมดอกไม้ค่ะ

มุมนี้ขายของที่ระลึกจำพวกเทียนค่ะ

จากนั้นพวกเราก็ไปเจอนี่ค่ะ
ป้ายสุดเขตแดนประเทศไทย
มาเจอแบบบังเอิญ 
กลายเป็นจุดนี้คือจุดที่พวกเราอยากไปต่อมากที่สุด
นั่นคือขึ้นเขากระโจมค่ะ
แต่ด้วยเวลา และสภาพรถ ไม่เอื้ออำนวย
เลยเก็บไว้ในลิสก่อนค่ะ

สรุปว่าจุดนี้คือจุดที่พวกเราใช้เวลานานที่สุด 
ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ยืนยิ้มมองเขากระโจม 
จนพนักงานหัวเราะเลย ...

เอาล่ะค่ะ... จบสถานที่ที่ 1 ไปต่อกันเลยค่ะ
คราวนี้พวกเราไม่หลงล่ะค่ะ อิอิ

The Scenery Vintage Farm

มาถึงรีบลงรถค่ะ ตื่นเต้นจะได้เจอน้องแกะ
ได้เรื่องอีกทีค่ะ ... มือถือหล่น
เพิ่งซื้อได้ไม่กี่เดือน หล่นซะสูงเลย เง้อออออ

หน้าเสียสักพักนึง หันไปเห็นน้องแกะ
ลืมเรื่องมือถือไปเลยค่ะ


หลังจากซื้อตั๋วแล้ว ก็ลุยเลยค่ะ ^^

มุมถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ
มาแล้วก็อยากได้รูปสวยๆ เยอะๆ 
ร้อนแค่ไหนก็ยอมค่ะ
เป็นไงล่ะ ขับรถในฟาร์มด้วย อิอิ
เจอน้องแกะแล้วววววววววว
แย่งหญ้ากันใหญ่เลยค่ะ
ร้อนแค่ไหนก็ทนค่ะ
มุมไหนก็สวยค่ะ
รูปนี้ด้านหลังเป็นศาลพระภูมิค่ะ แปลกตาดีค่ะ
ก่อนจะถ่ายรูปนี้ แอมร้อนค่ะ จะหาที่หลบแดด
แต่คิงคองเรียกมาถ่ายรูป
ก็มาแบบอารมณ์เสียอ่ะค่ะ

หยิบกล้องขึ้นมา พอกดถ่ายเท่านั้นล่ะค่ะ
--!
ถ่ายไม่ติด
เอาสิคะทีนี้ ยืมมองหน้ากัน ต่างคนต่างไม่พูด

แอมนึกได้ เลยพูดว่า
"ก็เมื่อกี๊ มือถือหล่น เครื่องน่าจะมีปัญหานิดหน่อย"

และแล้วก็จริงค่ะ
ถ่ายใหม่ ถ่ายได้
กล้องก็นะ ช่างมามีปัญหาจังหวะนี้ เฮ้อออ

หลังจากนั้นพวกเราไปชิมไอศครีมนมแกะค่ะ
แต่ไม่มีรูปนะคะ
ถ่ายรูปไม่ไหว ร้อนค่ะ ไม่ถูกปากด้วย เหอๆ

จากนั้นพวกเราก็โบกมือลาที่นี่ค่ะ
มุ่งสู่สถานที่ถัดไป... อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง
คราวนี้แวะถามทาง แล้วดูป้ายเรื่อยๆ
ไม่หลงแล้วค่ะ

ตัวอัลปาก้า ก็ไม่เคยเห็น กะว่ามาแล้วต้องเห็นให้ได้
มาตามทางเรื่องๆ จนเจอค่ะ
แต่...... แต่...........แต่......
ฟาร์มปิด ปิด ปิด ปิดดดดดดดดดด

ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ....
มาเป็นเพลงเลยค่ะ วันนี้วันอะไรของพวกเราเนี่ย...
มีแต่เรื่องจริงๆ เข้ามาลึกด้วยค่ะ เสียเวลามาก
ในใจก็โกรธ เคือง ทำไมไม่มีป้ายบอกว่าปิดวันนี้
ทำไมชาวบ้านไม่บอก บลาๆๆๆๆๆๆๆ

พอมาถึงปากทาง มองป้ายอีกที
ชัดเจนค่ะ... เค้าเขียนไว้ แต่ไม่อ่านเอง เชอะ
หายโกรธโดยทันที อิอิ

ดูนาฬิกาอีกที เข้าช่วงบ่ายแล้ว
หิวตามระเบียบค่ะ หาร้าน ครัวม่อนไข่ ต่อ
ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปกับรีสอร์ทต่างๆ เรื่อยๆค่ะ


จนถึงร้าน ซึ่งร้านนี้พี่ชายแนะนำมาค่ะ 
รายละเอียดต่างๆ ที่นี่ค่ะ

ไม่มีรูปค่ะ หิว ถ่ายไม่ไหว ขออภัยด้วยนะคะ
แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำร้านนี้
อาหารอร่อย บรรยากาศดี
ไม่มีเรื่องให้กังวลใจด้วยค่ะ ^^

หลังจากออกจาก ครัวม่อนไข่ พวกเรามุ่งหน้าไปหัวหินเลยค่ะ
พวกเราวางแผนไว้ว่าคืนนั้นต้องไปนอนหัวหินค่ะ

ติดตามกันต่อตอนหน้านะคะ ^^

**********************************************


ไม่มีความคิดเห็น: