วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พักกายพักใจ...ที่นี่...ละวะ


"เกาะละวะใหญ่"
หรือที่เรียกกันติดปากว่า "เกาะละวะ"


เป็นเกาะเล็กๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
ที่มีหาดทรายขาวสะอาด มีปะการังน้ำตื้นอยู่รอบๆ 
ในยามที่น้ำขึ้น น้ำทะเลจะขึ้นมาถึงบริเวณพื้นหญ้าด้านบน
ในยามที่น้ำลง ก็จะเห็นหาดทรายที่ขาวสะอาด...


โดยปกติ การเดินทางไปเกาะละวะ
นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือจากท่าเรือ
โดยท่าเรือที่สามารถเดินทางไปได้มีทั้งภูเก็ตและพังงา
ดังนี้...

จากพังงา 
1. จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 
เรือเร็ว ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง
2. จากท่าเทียบเรือบ้านคลองเคียน
เรือเร็ว ใช้เวลา 20-30 นาที
3. จากท่าเทียบเรือบ้านเนินหิน 
เรือเร็ว ใช้เวลา 10 นาที

จากภูเก็ต
1. จากท่าเรืออ่าวปอ 
เรือเร็ว ใช้เวลา 30-40 นาที
2. จากท่าเรืออื่นๆ ...

สภาพโดยทั่วไป ...
เกาะแห่งนี้มีเพียงที่พักของอุทยานเท่านั้นค่ะ
เสมือนบ้านเป็นหลัง และมีห้องน้ำในตัว

ส่วนร้านอาหาร 
ก็มีร้านค้าสวัสดิการของอุทยาน
สามารถสั่งอาหารได้จากที่นี่เลย
หรือจะนำอาหารไปเองก็ได้ค่ะ

เอาล่ะค่ะ... ว่ากันด้วยสภาพโดยทั่วไปของเกาะแล้ว
เรามาว่ากันด้วยบันทึกการเดินทางฉบับนี้ดีกว่าค่ะ...
^__________^

ครั้งนี้พวกเราเดินทางกันประมาณ 14 คนค่ะ
จุดประสงค์หลักคือ พี่ชายแอมพาเพื่อนมาจากปทุมธานี

แล้วอยากพาไปในที่ที่ทำให้ทุกคนประทับใจค่ะ
แอมก็เกือบพลาด ไม่ได้ไปด้วยซะแล้ว
แต่สุดท้ายก็ได้ไปค่ะ

พวกเราติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานโดยตรงค่ะ
รวมถึงสั่งอาหารจากร้านค้าสวัสดิการเลย

พวกเราเดินทางกันในช่วงของฤดุฝนค่ะ
จึงเป็นเรื่องปกติเลย ที่จะเจอทั้งลมแรง และฝนตก

แต่ยังไงก็ตาม... พวกเราอยู่กันเหมือนเป็นหาดส่วนตัวเลยค่ะ
เพราะมีแต่นักท่องเที่ยวกลุ่มของพวกเราเพียงกลุ่มเดียว

เกาะเล็กๆ ด้านซ้ายนั่นล่ะค่ะ เป้าหมายของพวกเรา
สะพานทางขวา เป็นสะพานท่าเทียบเรือ
ท่าเรือบ้านเนินหินค่ะ


แต่พวกเราไม่ได้ลงเรือตรงนี้ 
พวกเราลงก่อนถึงสะพาน
ลุยน้ำกันเลยค่ะ

เอาสัมภาระขึ้นเรือกันค่ะ

พร้อมแล้วลุย......


เก็บภาพกันไปเรื่อยๆ ค่ะ


ทั้งแดด ทั้งลม ทั้งน้ำทะเลเลยค่ะ


หน้าตาเด็กหนีมาเที่ยว


นั่งเรือมาสักพักก็ถึงค่ะ ปกติประมาณ 10 นาที
แต่วันที่พวกเราไปประมาณ 20 นาที ค่ะ


สภาพทั่วไปบนเกาะค่ะ

น้ำทะเลจากที่พักค่ะ

เมื่อเก็บสัมภาระ เข้าที่พักแล้ว 
ก็ถึงเวลาสำรวจเกาะค่ะ อิอิ
น้ำทะเลใสระดับนึงเลยค่ะ
ลมแรง เย็นสบายเลย

อาคารสีขาวหลังคาสีแดงนั้น ไม่ได้เปิดให้พักค่ะ
เป็นที่พักของเชื้อพระวงศ์ค่ะ

ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ 
ฝนกำลังจะมาทักทายพวกเราค่ะ
ภูเขาที่เห็นนั้น เป็นฝั่งพังงานะคะ


หาดทรายขาวสะอาดที่สุดในละแวกนี้เลยค่ะ

ต้นไม้ต้นนี้เสมือนสัญลักษณ์ของเกาะเลยค่ะ

อีกมุมของเกาะค่ะ

เห็นแล้วอยากเอนกาย พักผ่อนเลยใช่ไหมคะ

ตีนกบ ... พี่ๆ เอามาดำน้ำค่ะ อิอิ
แต่ไม่ได้ใช้

ยามพระอาทิตย์ใกล้ตก + กับเมฆฝนกำลังมาค่ะ

มุมไหนก็สวยค่ะ
ภาพของพวกเราไม่มีการตกแต่งใดๆ นะคะ

จากจุดชมวิวค่ะ
ท้องฟ้า ทะเล ภูเขา ครบเลยค่ะ


มีความสุขกันทุกคนค่ะ


อยากเล่นน้ำทะเล แต่ยังเล่นไม่ได้ 
สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
ก็นั่งๆ นอนๆ ยืนๆ กันไปก่อนค่ะ อิอิ

พวกเราเชื่อว่าเปลนี้มีความแข็งแรงมาก
ภาพนี้พิสูจน์ได้ค่ะ ^___^


เดินไปเก็บภาพไปค่ะ
พวกเราเดินได้ไม่รอบเกาะนะคะ
มีปัญหากับสภาพอากาศจริงๆ

ถ้าน้ำทะเลขึ้น
เปลที่นั่งอยู่นี่... จมน้ำทะเลนะคะ

สักพักก็ถึงเวลารับประทานอาหารค่ะ
นี่ค่ะร้านอาหารอุทยาน

จากนั้นพวกเราก็นั่งคุยกันสักพัก แล้วก็เข้านอนค่ะ
พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้ามืด
เพราะอยากเห็นตอนน้ำขึ้น


ก่อนอื่น... เดินสำรวจเกาะยามเช้าค่ะ


เดินไปเดินมา... เป็นแบบนี้ค่ะ

ลงไปแช่น้ำล่ะค่ะ

สนุกกันใหญ่เลยค่ะ
หมูตัวเล็กบินนนนนนน

หมูตัวใหญ่บินนนนนนนน 5555+

จำเปลด้านบนได้มั๊ยคะ ที่แอมบอกว่าถ้าน้ำขึ้นเปลจะจมน้ำ
เป็นดังในภาพเลยค่ะ

ใครเผลอ ก็โดนแบบนี้ค่ะ

นี่ไงคะ ชัดๆ เลย สนุกกันใหญ่

ปิดท้ายกันด้วยภาพนี้ค่ะ 

สำหรับบันทึกฉบับนี้...
ภาพถ่ายเกือบทั้งหมด แอมเอามาจาก facebook 
ของพี่ๆ ที่ร่วมเดินทางไปกับเรา

เนื่องจากแอมไม่ได้เก็บภาพไว้เลยค่ะ

ขอบคุณพี่ๆ มา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ

สำหรับความประทับใจ
แอมประทับใจมากๆ ค่ะ
และคิดว่าพี่ๆ ก็จะประทับใจด้วยเช่นกันนะคะ

เจอกันใหม่บันทึกฉบับหน้าค่ะ
สวัสดีค่ะ
******************************************



วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สวัสดี...หลีเป๊ะ...(ทริปที่คนตั้งใจไปไม่ได้ลงรูป..ลงแต่รูปของคนที่ไม่ตั้งใจไป)


สวัสดีเช่นเคยค่ะ...
สำหรับบันทึกหน้านี้ ว่ากันด้วย... เกาะหลีเป๊ะค่ะ


ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่า
นี่คือเกาะในฝันของแอมเลยค่ะ
อยากไปยิ่งกว่าเกาะไหนๆ
เคยแพลนไว้หลายครั้งแล้ว
แต่ก็ล่มทุกครั้งค่ะ

แต่.... ครั้งนี้ไม่ล่มแล้ว
เพราะไม่ได้แพลนไว้
ไปแบบกะทันหันเลยค่ะ 
รู้วันอังคาร เดินทางเสาร์เข้าเลย

เอาล่ะค่ะ...เข้าเรื่องดีกว่า
พวกเราออกจากภูเก็ตเช้าวันเสาร์
มุ่งหน้าไปยัง จ. ตรัง 
เพื่อไปเจอกับสมาชิกอีก 2คนที่นั่น
และเดินทางต่อไป ท่าเรือปากบารา อ.ละงู จ.สตูลค่ะ

เส้นทางของพวกเราจากภูเก็ต ไปละงูตามนี้เลยค่ะ

ว่ากันด้วยบรรยากาศของการเดินทาง
บรรยากาศยามเช้า ณ จ.พังงาค่ะ
ระหว่างทางเต็มไปด้วยหมอก... ^^

ขับรถไปสักครู่... พระอาทิตย์ก็ขึ้นค่ะ

พระอาทิตย์ดวงโต... 
บ่งบอกถึงสภาพอากาศของพังงาในวันนั้นค่ะ
ร้อนแน่นอน อิอิ

เปิดกระจกขับรถกันเลยค่ะ
อากาศกำลังดี

ออกจากภูเก็ต 2 คัน เลยได้ภาพแบบนี้มา

จากนั้นพวกเราแวะที่ Phang-nga View point...
แต่... ไม่รู้ไปเช้าเกิน หรือว่ากำลังปรับปรุง
พวกเราเจอแต่ม้าในคอกค่ะ อิอิ


เลยเก็บภาพนิดหน่อย แล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ
แวะรับประทานข้าวหมกไก่กันที่..
ปั๊มราชพฤกษ์... ที่เก่าค่ะ

พวกเราถึงตรังช่วงเที่ยง
แวะรับประทานอาหารกันที่ร้านเรือนไม้
แล้วเดินทางต่อไป อ.ย่านตาขาว และเข้า อ.ละงูกันค่ะ


บรรยากาศเมื่อเข้า อ.ละงู ค่ะ 
เห็นได้ชัดถึงความอุดมสมบูรณ์เลย


อากาศเริ่มร้อนค่ะ 
เริ่มเข้าช่วงบ่ายแล้ว

เมื่อถึงบริเวณท่าเรือปากบารา
พวกเราต้องติดต่อซื้อตั๋วลงเรือไปยังเกาะหลีเป๊ะค่ะ

พวกเราเลือกซื้อจากบริษัทที่อยู่เยื้องๆ 7-11
ก่อนเข้าไปในท่าเรือปากบารา
ค่าเรือไป-กลับ คนละ 1,000 บาท
ไปกับเรือพลอยสยามค่ะ


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้สติกเกอร์สีม่วงมาติดเสื้อ
และให้บัตรคิว Check-in มา
บัตรคิวถือไว้ให้เจ้าหน้าที่ตอนขึ้นเรือค่ะ


รวมถึงเราจะได้รับกระดาษใบนี้ ใส่ซองมาด้วยค่ะ
เพื่อใช้เป็นหลักฐานตอนลงเรือจากเกาะหลีเป๊ะ มาท่าเรือปากบารา

ภายในท่าเรือปากบารา
พวกเราออกรอเรือทางประตู 4 ค่ะ

นั่งรอเวลาค่ะ อิอิ
อากาศเหรอคะ ร้อนมาก รอนาน เริ่มหงุดหงิดค่ะ

เก็บภาพเรื่อยๆ ฆ่าเวลา
แต่ก็ได้ไม่กี่ภาพ ... อากาศร้อนจนไม่อยากทำอะไร

เจ้าถิ่นค่ะ ... เดินเวียนไปเวียนมา
เลยถ่ายมาสักภาพ เชื่องด้วยค่ะ

เอาล่ะค่ะ ... ทุกคนยิ้มออกแล้ว
เรือมาแล้วค่ะ

พวกเรานั่งท้ายๆ เรือค่ะ
จะได้เห็นวิวทุกมุม

ขาไป เรือไม่เต็ม นั่งสบายๆ ค่ะ
นอนเลยก็ยังได้

แต่แอมกับก๊อบไม่นอนค่ะ
นั่งมองข้างนอกเรื่อยๆ 
ชี้นู้นนี่นั่น เดาไปเรื่อยว่าจะถึงเกาะแล้ว 
ให้กำลังใจตัวเองค่ะ

ในใจคิด... หาดทรายขาว น้ำทะเลใส
พรุ่งนี้เช้าเหมาเรือไปทางหาดหินงาม ถ้ามีเวลาไปตะรุเตา
บลาๆๆๆ มโนไปเรื่อยค่ะ

คนอื่นๆ หลับไปแล้วค่ะ 
พอรู้สึกตัว เห็นแอมกับก๊อบชี้กันอยู่
เลยมาชะโงกด้วย แล้วถามแอมว่าถึงแล้วเหรอ

แอมก็ตอบอย่างมั่นใจค่ะ...
ไม่รู้ 555+

นั่งเรือประมาณ 1.30 ชั่วโมง 
ก็มาถึงที่นี่ค่ะ

โป๊ะ กลางทะเล
พวกเราต้องลงจากสปีดโบ๊ทที่นี่ 
แล้วนั่งเรือต่อไปยังหาดชาวเล
พวกเราขึ้นทางหาดชาวเลค่ะ

ลุ้นค่ะลุ้น จะถึงแล้ว

พี่คนขับเรือค่ะ

ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ
ว่าทำไมต้องต่อเรือ ที่จริงจะถึงฝั่งอยู่แล้ว
แต่คิดว่าน่าจะเป็นการสร้างรายได้ให้ชาวบ้านด้วย

ก่อนหน้านี้ดูหลายๆ รีวิว
ไม่เคยรู้เลยค่ะ ว่าที่นี่มีที่พักอาศัยด้วย
นึกว่ามีแต่โรงแรม
อาจจะเพราะทั่วไปแล้ว นักท่องเที่ยวจะไป...
เที่ยวฝั่งหาดพัทยากัน
ที่ว่าทรายขาว น้ำใสนั่นล่ะค่ะ

อ๊ะๆๆๆๆ เริ่มรู้แล้วใช่มั๊ยคะ
พวกเราผิดหวังกันแล้วค่ะ
เพราะพี่ที่มากับเราบนสปีดโบ๊ทบอกว่า...
"ทางอุทยานปิดหาดฝั่งของอุทยาน 
นั่นคือ หาดพัทยา หาดหินงาม และอื่นๆ"

ปิดหาดดดดดด........
ฮือออออออออ 
แล้วพวกเรามาทำไม พวกเรามาเที่ยวตรงไหน
อะไร ยังไง คิดไปเต็มหัวเลย...

แต่เอาเถอะค่ะมาแล้ว นั่งรถมาไกล
จะถอยก็ยังไงอยู่
งั้น... เดินหาที่พักค่ะ
แว๊บแรกที่เห็น ... หาดชาวเลก็สวยไม่เบานะคะ
น้ำใสเหมือนกัน ^^

ไปค่ะ เดิน.... ไล่น้องก๊อบไปข้างหน้า
บอกให้เดินไปก่อน จะถ่ายรูป อิอิ

เดินไปสักพัก ... นี่เลยค่ะ 
ยังไม่เข้าที่พัก มืออยู่ไม่นิ่ง จับหอยจับปู 
ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จนแอมต้องบังคับให้ปล่อยก่อน --!

เอาล่ะค่ะ... เดินมาสัก 400 เมตร ก็ได้ที่พัก
พวกเราพักที่นี่ค่ะ ... ศลิษา รีสอร์ท

มุมจากรีสอร์ท ไปยังท่าเรือ
เรือชาวบ้านเต็มเลย สวยไปอีกแบบค่ะ

บาร์ข้างรีสอร์ทค่ะ

ด้านข้างอีกฝั่ง

ถ่ายจากด้านในของรีสอร์ทค่ะ

 
จากนั้นพวกเราเอาของเข้าห้องพัก
แล้วออกมาพักผ่อนกันค่ะ

คราวนี้สนุกเค้าล่ะค่ะ
จะทำอะไรก็ทำเลย
ถือเป็นการพักผ่อนหลังจากสอบกลางภาค

ที่นี่มีเปลให้ด้วยค่ะ ที่พักอยู่ด้านหลังเปลนั่นล่ะค่ะ

เก็บภาพเรื่อยๆ ค่ะ

หลังจากนั้นพวกเราก็เปลี่ยนชุดมาเล่นน้ำกัน
ชุดว่ายน้ำ 1 piece 2 pieces ไม่มีนะคะ
แอมเคยแพ้แดดอยู่ช่วงนึง
เวลาออกแดดต้องป้องกันที่สุดค่ะ

ตอนนี้แม้จะไม่ค่อยมีอาการแล้ว
แต่ก็ยังต้องป้องกันค่ะ ^^

เล่นกันได้สักพักก็นี่เลยค่ะ
ตัวป่วน... ขอให้เราเอาดินถมตัวให้

 
กว่าจะถมเสร็จ เล่นเอาเหนื่อย 
ตัวไม่ได้เล็ก แล้วยังอยู่ไม่นิ่งอีก

สักพักไม่ไหว อึดอัด ฮีขอขึ้นค่ะ
ขึ้นเอง ไม่มีใครช่วย... 
ตามภาพเลยค่ะ อิอิ
 
 
หายอยากกันไปเลย...

เล่นน้ำสักพัก ก็มาถ่ายรูปกันค่ะ
เห็นมั๊ยคะ น้ำใสเหมือนกัน

ขึ้นจากทราย ล้างตัว... จากนั้นน้องก๊อบขออีกรูปค่ะ

จากนั้นพวกเราก็ล้างตัว อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า
แล้วมาทานอาหารค่ำกันค่ะ
ไม่ได้ไปไหนไกล นั่งที่หน้า lobby ของที่พักเลย
ปักหลักกันตรงนั้น ใช้เวลามากกว่าอยู่ในห้องพักอีกค่ะ

เมื่อทานอาหารเสร็จ
พวกเราส่วนหนึ่งก็เดินไปยังถนนคนเดินค่ะ
สามารถเดินออกทางหลังโรงแรมได้เลย
ไม่ไกลมาก

เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่า ทางมืดหน่อย
แต่ปลอดภัยแน่นอนค่ะ
พวกเราเดินกันมา 5 คน 
สบายๆ ค่ะ

เดินมาถามทางชาวบ้านมา จนถึงค่ะ
ใช้เวลาไม่นานค่ะ 5-10 นาที
ภาพด้านบน ปากทางเข้าค่ะ

แผนที่ท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะค่ะ
ยืนดูไป เศร้าไป มุมซ้ายบนนั่นเกาะหินงาม ฮือๆๆๆๆ

บรรยากาศภายในถนนคนเดินค่ะ
มีร้านค้ามากมายเลย
ทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านนวด สปา... 

ร้านโรตี น้ำปั่น

บาร์เล็กๆ นั่งสบายๆ รวมถึง 7-11 ก็มี
ราคาก็สูงกว่าปกตินิดหน่อย สามารถรับได้ค่ะ

นี่ค่ะถึงแล้ว พวกเราเดินมาทะลุฝั่งหาดพัทยาค่ะ
เป็นไงคะ ทรายขาว น้ำทะเลใส --!

น้องก๊อบมานั่งเล่นกับเจ้าถิ่นค่ะ

หลายๆ คน คงจะชะตากรรมเดียวกับเรา อิอิ

จากนั้นพวกเรากลับที่พัก แล้วก็พักผ่อนกัน
รุ่งเช้าเรามีภารกิจอีกค่ะ

เวลาประมาณ 7 โมงเช้า 
มีคนมาเคาะประตู ปังๆๆๆๆๆ
พวกเรา  3 คนตกใจตื่น
เค้ามาปลุกเราไปพายแคนนูค่ะ อิอิ
รีบเลยค่ะ....

บรรยากาศยามเช้าค่ะ

ที่พักเป็นหลัง ที่พวกเราไม่ได้พักค่ะ

อันนี้ค่ะ ที่พวกเราพัก 
ถ้าจำไม่ผิด ราคาคืนละประมาณ 1,000 บาท

มีทั้งเมฆฝน ทั้งพระอาทิตย์ดวงใหญ่เลยค่ะ เช้านี้

เห็นเกาะเล็กๆ ตรงกลางไหมคะ
นั่นคือเป้าหมายค่ะ
ชาวบ้านบอกว่า บริเวณนั้น มีปลานีโมด้วยค่ะ


มืดมาเลยค่ะ แต่ไม่สนใจ อิอิ

อีกฝั่งค่ะ ภูเขาฟูจิ
ออ ไม่ใช่ อิอิ
แยกไม่ออกค่ะ เมฆ หรือหมอก

เอาล่ะค่ะ พวกเรา
เช่า แคนนู 3 ลำ แล้วออกเดินทางกัน
ระหว่างทาง ลมแรงมาก 
แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคค่ะ

สักพักก็มาถึงเกาะเล็กๆ นั้นค่ะ

ถ่ายรูปกันค่ะ

พวกเราจอดแคนนูอีกฝั่ง แล้วเดินข้ามก้อนหินมาด้านนี้กัน

ทุกคนล้วนใช้มือถือในการบันทึกภาพ
จึงเอาไปด้วยไม่ได้ เพราะฉะนั้น...
ความหวังเดียวของพวกเราคือ กล้อง GoPro (Copy) ค่ะ
ไม่ได้ทำให้พวกเราผิดหวังเลย

รูปคู่ กลางทะเลค่ะ อิอิ

จากนั้นพวกเราก็พายแคนนู ออกมา กะว่าจะไปอีกฝั่งของท่าเรือ
โดยมีหาดทรายสีขาวเป็นแหลมยื่นลงทะเล

แต่...............
พายไปสักพัก เรืออีกลำที่ไปด้วยกันคว่ำค่ะ
ลำนั้นมี 2 คน ชายฉกรรจ์ทั้งคู่
ด้วยความที่น้ำลึก ขึ้นเรือยากมาก
บ้างก็ขึ้นแล้วหล่น บ้างก็ขึ้นแล้วเรือคว่ำ

ชายอีกคนที่มากับเรืออีกลำเลยบอกพวกเราว่า...
"ไป ไปกันเถอะ ปล่อยให้เล่นกันไปก่อน
เดี๋ยวก็ตามมา"

พวกเราก็พายมากัน 2 ลำ 
จนเหลือ 20 เมตรก็ถึงฝั่ง
น้องก๊อบตัวดีค่ะ เล่น สนุกคนเดียว
นั่งหัวเรือ ถือไม้พาย พายทีเหวี่ยงตัวที จนเรือเราคว่ำ
น้ำเหมือนจะไม่ลึกค่ะ แต่ขาแอมไม่ถึง
จะว่ายน้ำ แต่ทำไม่ได้
ขาเป็นตะคริว 2 ข้าง... เลยคว้าไม้พายแคนนูไว้
ส่วนน้องก๊อบเหรอคะ ว่ายน้ำสนุกเลย

จากนั้นพวกเราก็ต่างคนต่างว่ายน้ำกันมาถึงฝั่ง
ชายฉกรรจ์ 2 คน ยังไม่มา ไม่มีวี่แวว
พวกเราก็ได้แต่คิดว่า คงสนุกกันเพลิน
พวกเราเลยกลับไปอาบน้ำที่ห้องกันหมด

อาบเสร็จ มีคนมาเคาะห้องอีกแล้ว
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พอเปิดประตูมา เย้ๆๆๆ ชาย 2 คนกลับมาแล้ว
มาขอยาสระผมจากพวกเรา....

สักพักแอมได้ยินเสียงโวยวายหน้าห้อง
เจิดเดินยิ้มเข้ามา....
แอมเลยออกไปดู...
ชายคนเดิมโวยวายใหญ่เลย
ว่าน้องๆ ไม่รอบ้าง ทิ้งบ้าง ไม่สนใจบ้าง
อิอิ ใครจะไปรู้ล่ะคะ เห็นสนุกเลย

ส่วนชายอีกคนแข็งแรงค่ะ
เป็นเทรนเนอร์ หล่อ เท่ห์ (เหรอ)
บอกว่าเหนื่อยมาก ต้องพาทั้งชายอีกคน 
และเรือ ไม้พายเข้าฝั่ง
ไม่พอ ไม้พายหายไปอันนึงอีก อิอิ
แอมเชื่อแล้วค่ะ ว่าพี่แข็งแรงจริงๆ 555+

วีดีโอค่ะ...

จากนั้นพวกเรา Check out เที่ยงค่ะ
แต่ถ้าใครสังเกตุในใบกลับ
จะเห็นว่าพวกเราได้กลับเรือรอบ 4 โมงเย็น

งานเข้าเลยค่ะทีนี้
ตอนแรกพี่ๆ โทรไปขอเลื่อนเป็นรอบเที่ยง
แต่ทางเรือบอกเรือเต็มค่ะ

พี่อีกคนเลยลองโทรใหม่
สรุปว่าไปได้ค่ะ เย้ๆๆๆๆๆๆ

ก่อนกลับค่ะ ท้องฟ้าใส น้ำทะเลก็ใสค่ะ

เจ้าถิ่น เล่นน้ำกันสนุกเลยค่ะ

ถ่ายไปทุกมุมเลยค่ะ

ฝั่งบ้านพักของชาวบ้าน

^__________^


ขากลับเหมือนเดิมค่ะ นั่งเรือชาวบ้านไปโป๊ะกลางทะเล
แล้วขึ้นสปีดโบ๊ท กลับท่าเรือปากบาราค่ะ



เข้าแถวค่ะ เจ้าถิ่นมาส่งด้วย


ดูหน้าคนไม่อยากกลับบ้านค่ะ อิอิ

สักภาพ สองภาพ จากบนโป๊ะค่ะ


เกาะหลีเป๊ะทั้งเกาะค่ะ

ขากลับเรือขับเร็วมากค่ะ ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงก็ถึงฝั่ง
คนเต็มเรือเลยค่ะ
พวกเราหลับทุกคนค่ะ อิอิ

จากนั้นพวกเราก็เดินทางกลับภูเก็ตกันเลย
ถึงภูเก็ตประมาณ 2 ทุ่ม โดยสวัสดิภาพค่ะ

สรุปค่าใช้จ่ายค่ะ...
ค่าเรือ 1,000 บาท/คน
ค่าน้ำมันรถ 2,000 บาท/คัน
ค่าห้องพัก 1,000 บาท/ห้อง
ค่าอาหาร + อื่นๆ  3,000 บาท(ขึ้นอยู่กับแต่ละคน)

สรุปสำหรับทริปนี้....
เกาะหลีเป๊ะ เหมาะที่จะท่องเที่ยวช่วง High season
เพราะช่วง Low season มีการปิดเพื่อนฟื้นฟูเกาะค่ะ

ลากันด้วยภาพนี้จาก อ.ละงู จ.สตูลค่ะ

พบกันใหม่ บันทึกฉบับหน้าค่ะ
^______^

******************************************