"อยุธยา... เมืองเก่าของเราแต่ก่อน"
หลังจากที่พวกเรากลับมาจากน้ำตกเหวนรก ที่เขาใหญ่แล้ว
วันถัดมา พวกเราว่างกันแค่ 2 คนค่ะ
พี่ๆ ต้องไปทำงานกัน
ด้วยความที่พี่ชายกลัวพวกเราจะเบื่อ
เลยแนะนำให้พวกเราไปเที่ยวอยุธยา
ส่วนตัวแอมเองอยากจะมาอยู่แล้ว
มาท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
ได้เรียนรู้เรื่องราวเยอะแยะเลยค่ะ
ปกติจะไปแต่สุโขทัย
คราวนี้มาใกล้จะถึงอยุธยาแล้ว
ก็ต้องไปชมสักหน่อย
พี่ชายแนะนำวัดมาเยอะมาก
แอมก็นั่งพยักหน้า ทำเป็นรู้เรื่องไปงั้นล่ะค่ะ
รอให้พูดให้จบ ขัดจังหวะจะโดนด่าเอาเปล่าๆ อิอิ
พอพูดจบค่อยบอกว่า...
"โก๊บอกแต่ทางไปอยุธยาก็พอ จากที่นี่ไปไม่ไกล
เดี๋ยวเรื่องที่เที่ยว แอมไปหาจาก ททท อยุธยาก็ได้ อิอิ"
ต้องหาจังหวะเอาคืนบ้าง ^_^
เอาล่ะค่ะ สรุปว่า มาอยุธยา ต้องเน้นไปที่วัดนะคะ
โบราณสถานต่างๆ จะอยู่ที่วัดแต่ละแห่งเลย
นี่ค่ะ เอกสารที่ได้มาจาก ททท อยุธยา
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า
พวกเราไปหลายวัดมาก จำไม่ได้ว่าไปที่ไหนก่อนหลัง
ดังนั้นพวกเราจึงจะระบุสถานที่พร้อมรูปให้ชมนะคะ
บางรูปพวกเราก็จำสถานที่ไม่ได้ค่ะ
เริ่มแรกเมื่อเข้าสู่ตัวเมืองอยุธยาจะเจอกับวงเวียน
ที่มีเจดีย์อยู่ตรงกลาง นั่นคือ
เห็นแว๊บแรก... แปลกดีค่ะ
แต่ทางเจ้าหน้าที่คงมีเหตุผลใกล้เคียงกับ
อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร
ของบ้านพวกเรานั่นล่ะค่ะ ^^
*****************
"พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช"
สถานที่นี้อยู่บริเวณ ทุ่งภูเขาทองค่ะ
ริมถนนสายอยุธยา-อ่างทอง
อดีตเคยเป็นสมรภูมิรบหลายครั้งเลยค่ะ
พื้นที่นี้จึงได้รับการพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้
ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ
โดยสถานที่นี้มีพื้นที่เริ่มแรก 1,075 ไร่
ประกอบด้วย สระเก็บน้ำ
มีภูมิทัศน์ที่สวยงามรอบอนุสาวรีย์
สวนสาธารณะ
และพื้นที่รับน้ำทำการเกษตรค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
*******************
"วัดใหญ่ชัยมงคล"
สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญ
ทางประวัติศาตร์มากมาย
ถือได้ว่ามากที่สุดในจังหวัดเลยค่ะ
รวมถึงมีเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาด้วยค่ะ
วันที่พวกเราเดินทางไปนั้น มีนักท่องเที่ยวเยอะมากจริงๆ
แม้ว่าพื้นที่ของวัดจะกว้างใหญ่
แต่ก็ดูแคบลงไปเลยค่ะ
ชมทัศนียภาพของเจดีย์พระประธานจากมุมสูงค่ะ
พระพุทธไสยาสน์
มุมไหนก็สวยค่ะ
แถวพระพุทธรูป ที่ประดิษฐานเรียงรายอยู่ในระเบียงคด
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
***********************************
"วัดกษัตราธิราชวรวิหาร"
ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือ
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกค่ะ
ว่ากันว่า
ผู้ใดได้มากราบมาไหว้
จะประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานก้าวหน้ายิ่งใหญ่ขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการ ทหารตำรวจ
จะมาขอพรบารมีเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง
มักจะนิยมสักการะทำบุญในพระอุโบสถแห่งนี้
เพราะถือว่าจะทำให้ชีวิตสดใสก้าวหน้าตลอดไป
ภายในอุโบสถ
ด้านหน้าค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
*******************************************
"วัดธรรมมิกราช"
วัดแห่งนี้อยู่บริเวณใกล้เคียงกับพระราชวังโบราณ
จะมีป้ายตามข้างถนนบอกทาง
ปัจจุบันวัดธรรมิกราชยังเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ประจำอยู่
และทางทิศเหนือมีวิหารพระนอน
ที่มีผู้นิยมศรัทธา
มานมัสการอยู่สม่ำเสมอค่ะ
ภายในวัดค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
***********************************
"วัดพนัญเชิงวรวิหาร"
ชื่อนี้ค่อนข้างติดหูพวกเราค่ะ
อาจจะเนื่องด้วยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
อย่างมากมาย
มีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้มีชื่อเสียงไปทั่ว
นั่นคือ
"หลวงพ่อโต" ค่ะ
คุ้นๆ กันแล้วใช่มั๊ยคะ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีประเพณีหนึ่งที่โด่งดัง
นั่นคือ
"ประเพณีทิ้งกระจาด" ค่ะ
ในพระอุโบสถนั้นมีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ คือ
พระพุทธรูปทองคำ
พระพุทธรูปปูน
และพระพุทธรูปนาค
ภายในวัดจะมีการผสมผสานวัฒนธรรมของชาวจีนด้วยค่ะ
เนื่องจากหลวงพ่อโต เป็นที่เคารพนับถือของชาวจีนด้วย
หรือที่ชาวจีนเรียกว่า
"ซำปอกง" ค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
***********************************
"วัดพระศรีสรรเพชญ"
ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังโบราณ
หากมีความสนใจในประวัติศาสตร์
จะรู้ว่าชื่อนี้ก็คุ้น ติดหูเหมือนกันค่ะ
วัดแห่งนี้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ค่ะ
และถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง
เช่นเดียวกับ
วัดมหาธาตุ ที่สุโขทัย
และวัดพระศรีรัตนศาสดารามค่ะ
ปัจจุบันจะเห็นวัดแห่งนี้ในลักษณะของโบราณสถานเท่านั้นค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
**********************************
"วัดพุทไธศวรรย์"
ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตะวันตกเช่นกันค่ะ
จำได้ว่าพวกเราไปถึงวัดนี้ ในช่วงเย็นค่ะ
ซึ่งวัดปิดแล้ว เลยได้ถ่ายรูปมาแต่ด้านนอกค่ะ
วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือ
สมเด็จพระเจ้าอู่ทองใช้เป็นที่ตั้ง
พลับพลาที่ประทับเมื่อทรงอพยพมาตั้งอยู่
ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีค่ะ
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 และสมเด็จพระเอกทศรถ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
************************************
"วัดภูเขาทอง อยุธยา"
วัดแห่งนี้พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองเป็นผู้สร้างเมื่อพ.ศ. 2112
คราวยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา
โดยได้สร้างฐานเจดีย์ขึ้นมาคล้ายแบบมอญพม่า
แล้วยกทัพกลับ
เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงกอบกู้เอกราชได้ในปีพ.ศ. 2117
จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างเจดีย์แบบไทย
ไว้เหนือฐานแบบมอญ และพม่า
ที่สร้างเพียงรากฐานไว้ ณ สมรภูมิทุ่งมะขามหย่อง
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
****************************
"วัดหน้าพระเมรุ"
สถานที่แห่งนี้ เดิมพม่าใช้เป็นฐานบัญชาการรบ
จึงทำให้วัดนี้ไม่ถูกทำลาย
และถือได้ว่าเป็นวัดที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด
ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาค่ะ
พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ
พระอุโบสถ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
************************************************
"วิหารพระมงคลบพิตร"
สถานที่แห่งนี้อยู่ติดกับพระราชวังโบราณค่ะ
เป็นวัดในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
โดยพระมงคลบพิตรนับว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่
ที่มีลักษณะงดงาม เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง
ของกรุงศรีอยุธยาและเป็นที่เคารพสักการะมานานนับร้อยๆปีเลยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
***********************************
"ศาลหลักเมือง อยุธยา"
จริงๆ แล้วสถานที่นี้เป็นที่แรกที่พวกเราเจอ
หลังจากจอดรถเลยค่ะ
เนื่องจากอยู่ใกล้กับ ททท. อยุธยาค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
************************************
นอกจากนี้พวกเรายังได้ไปอีกสถานที่หนึ่ง
ซึ่งพวกเราจำชื่อไม่ได้จริง
ต้องขอโทษด้วยค่ะ
ความพิเศษของที่นี่คือ
มีการให้อฐิษฐานยกช้าง เพื่อเสี่ยงทายค่ะ
จริงๆแล้วการเสี่ยงทายแบบนี้มีหลายวัด
หลายจังหวัดเลยค่ะ
ภายในอุโบสถค่ะ
ช้างที่ใช้ยกเพื่อเสี่ยงทายค่ะ
เอาล่ะค่ะ นี่เป็นวัดทั้งหมดที่พวกเราไปค่ะ
ลืมบอกไปว่า มื้อเที่ยงของพวกเราที่อยุธยา
พวกเราไปกันที่ร้าน
"ก๋วยเตี๋ยวผักหวาน" ค่ะ
ร้านนี้พี่ชายแนะนำมาค่ะ
อร่อยจริงๆ ด้วยค่ะ
อยู่บริเวณรอบเขตพระราชวังโบราณเลย
หากใครที่ชอบการท่องเที่ยววัด
หรือประวัติศาสตร์
"อยุธยา" เป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะค่ะ
จบแล้วค่ะสำหรับการบันทึกความทรงจำที่อยุธยา
พบกันใหม่สถานที่หน้านะคะ ^^
**********************************************




























ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น