วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เที่ยววัด...ชมเมืองเก่า...ที่...อยุธยา


"อยุธยา... เมืองเก่าของเราแต่ก่อน"

หลังจากที่พวกเรากลับมาจากน้ำตกเหวนรก ที่เขาใหญ่แล้ว
วันถัดมา พวกเราว่างกันแค่ 2 คนค่ะ 
พี่ๆ ต้องไปทำงานกัน

ด้วยความที่พี่ชายกลัวพวกเราจะเบื่อ
เลยแนะนำให้พวกเราไปเที่ยวอยุธยา

ส่วนตัวแอมเองอยากจะมาอยู่แล้ว
มาท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
ได้เรียนรู้เรื่องราวเยอะแยะเลยค่ะ
ปกติจะไปแต่สุโขทัย
คราวนี้มาใกล้จะถึงอยุธยาแล้ว 
ก็ต้องไปชมสักหน่อย

พี่ชายแนะนำวัดมาเยอะมาก
แอมก็นั่งพยักหน้า ทำเป็นรู้เรื่องไปงั้นล่ะค่ะ
รอให้พูดให้จบ ขัดจังหวะจะโดนด่าเอาเปล่าๆ อิอิ
พอพูดจบค่อยบอกว่า...
"โก๊บอกแต่ทางไปอยุธยาก็พอ จากที่นี่ไปไม่ไกล
เดี๋ยวเรื่องที่เที่ยว แอมไปหาจาก ททท อยุธยาก็ได้ อิอิ"
ต้องหาจังหวะเอาคืนบ้าง ^_^

เอาล่ะค่ะ สรุปว่า มาอยุธยา ต้องเน้นไปที่วัดนะคะ
โบราณสถานต่างๆ จะอยู่ที่วัดแต่ละแห่งเลย

นี่ค่ะ เอกสารที่ได้มาจาก ททท อยุธยา

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า 
พวกเราไปหลายวัดมาก จำไม่ได้ว่าไปที่ไหนก่อนหลัง
ดังนั้นพวกเราจึงจะระบุสถานที่พร้อมรูปให้ชมนะคะ
บางรูปพวกเราก็จำสถานที่ไม่ได้ค่ะ

เริ่มแรกเมื่อเข้าสู่ตัวเมืองอยุธยาจะเจอกับวงเวียน
ที่มีเจดีย์อยู่ตรงกลาง นั่นคือ
"เจดีย์วัดสามปลื้ม"
ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ

เห็นแว๊บแรก... แปลกดีค่ะ
แต่ทางเจ้าหน้าที่คงมีเหตุผลใกล้เคียงกับ
อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร
ของบ้านพวกเรานั่นล่ะค่ะ ^^
*****************

"พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช"

สถานที่นี้อยู่บริเวณ ทุ่งภูเขาทองค่ะ 
ริมถนนสายอยุธยา-อ่างทอง 
อดีตเคยเป็นสมรภูมิรบหลายครั้งเลยค่ะ 

พื้นที่นี้จึงได้รับการพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้
ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ

โดยสถานที่นี้มีพื้นที่เริ่มแรก 1,075 ไร่
ประกอบด้วย สระเก็บน้ำ
มีภูมิทัศน์ที่สวยงามรอบอนุสาวรีย์
สวนสาธารณะ
และพื้นที่รับน้ำทำการเกษตรค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
*******************

"วัดใหญ่ชัยมงคล"

สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญ
ทางประวัติศาตร์มากมาย
ถือได้ว่ามากที่สุดในจังหวัดเลยค่ะ
รวมถึงมีเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาด้วยค่ะ

วันที่พวกเราเดินทางไปนั้น มีนักท่องเที่ยวเยอะมากจริงๆ
แม้ว่าพื้นที่ของวัดจะกว้างใหญ่
แต่ก็ดูแคบลงไปเลยค่ะ

ชมทัศนียภาพของเจดีย์พระประธานจากมุมสูงค่ะ


พระพุทธไสยาสน์
มุมไหนก็สวยค่ะ



แถวพระพุทธรูป ที่ประดิษฐานเรียงรายอยู่ในระเบียงคด

ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
***********************************
"วัดกษัตราธิราชวรวิหาร"

ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือ
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกค่ะ

ว่ากันว่า
ผู้ใดได้มากราบมาไหว้
จะประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานก้าวหน้ายิ่งใหญ่ขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการ ทหารตำรวจ 
จะมาขอพรบารมีเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง
มักจะนิยมสักการะทำบุญในพระอุโบสถแห่งนี้
 เพราะถือว่าจะทำให้ชีวิตสดใสก้าวหน้าตลอดไป

ภายในอุโบสถ 
ด้านหน้าค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ
*******************************************

"วัดธรรมมิกราช"

วัดแห่งนี้อยู่บริเวณใกล้เคียงกับพระราชวังโบราณ 

จะมีป้ายตามข้างถนนบอกทาง 
ปัจจุบันวัดธรรมิกราชยังเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ประจำอยู่
และทางทิศเหนือมีวิหารพระนอน
ที่มีผู้นิยมศรัทธา
มานมัสการอยู่สม่ำเสมอค่ะ


ภายในวัดค่ะ



ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ

***********************************

"วัดพนัญเชิงวรวิหาร"

ชื่อนี้ค่อนข้างติดหูพวกเราค่ะ
อาจจะเนื่องด้วยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
อย่างมากมาย

มีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้มีชื่อเสียงไปทั่ว
นั่นคือ
"หลวงพ่อโต" ค่ะ
คุ้นๆ กันแล้วใช่มั๊ยคะ

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีประเพณีหนึ่งที่โด่งดัง
นั่นคือ
"ประเพณีทิ้งกระจาด" ค่ะ


ในพระอุโบสถนั้นมีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ คือ
พระพุทธรูปทองคำ
พระพุทธรูปปูน 
และพระพุทธรูปนาค




ภายในวัดจะมีการผสมผสานวัฒนธรรมของชาวจีนด้วยค่ะ
เนื่องจากหลวงพ่อโต เป็นที่เคารพนับถือของชาวจีนด้วย
หรือที่ชาวจีนเรียกว่า
"ซำปอกง" ค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ

***********************************

"วัดพระศรีสรรเพชญ"

ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังโบราณ
หากมีความสนใจในประวัติศาสตร์
จะรู้ว่าชื่อนี้ก็คุ้น ติดหูเหมือนกันค่ะ

วัดแห่งนี้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ค่ะ
และถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง
เช่นเดียวกับ
วัดมหาธาตุ ที่สุโขทัย
และวัดพระศรีรัตนศาสดารามค่ะ


ปัจจุบันจะเห็นวัดแห่งนี้ในลักษณะของโบราณสถานเท่านั้นค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ

**********************************
"วัดพุทไธศวรรย์"

ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตะวันตกเช่นกันค่ะ
จำได้ว่าพวกเราไปถึงวัดนี้ ในช่วงเย็นค่ะ
ซึ่งวัดปิดแล้ว เลยได้ถ่ายรูปมาแต่ด้านนอกค่ะ

วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือ
สมเด็จพระเจ้าอู่ทองใช้เป็นที่ตั้ง
พลับพลาที่ประทับเมื่อทรงอพยพมาตั้งอยู่
ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีค่ะ


อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, 
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 และสมเด็จพระเอกทศรถ



ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ

************************************
"วัดภูเขาทอง อยุธยา"

วัดแห่งนี้พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองเป็นผู้สร้างเมื่อพ.ศ. 2112
 คราวยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา

โดยได้สร้างฐานเจดีย์ขึ้นมาคล้ายแบบมอญพม่า
แล้วยกทัพกลับ

เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงกอบกู้เอกราชได้ในปีพ.ศ. 2117

จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างเจดีย์แบบไทย

ไว้เหนือฐานแบบมอญ และพม่า

ที่สร้างเพียงรากฐานไว้ ณ สมรภูมิทุ่งมะขามหย่อง


ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ

****************************

"วัดหน้าพระเมรุ"

สถานที่แห่งนี้ เดิมพม่าใช้เป็นฐานบัญชาการรบ
จึงทำให้วัดนี้ไม่ถูกทำลาย
และถือได้ว่าเป็นวัดที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด
ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาค่ะ

พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ

พระอุโบสถ


ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ

************************************************

"วิหารพระมงคลบพิตร"

สถานที่แห่งนี้อยู่ติดกับพระราชวังโบราณค่ะ
เป็นวัดในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม


โดยพระมงคลบพิตรนับว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่
ที่มีลักษณะงดงาม เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง

ของกรุงศรีอยุธยาและเป็นที่เคารพสักการะมานานนับร้อยๆปีเลยค่ะ


ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ 

***********************************
"ศาลหลักเมือง อยุธยา"

จริงๆ แล้วสถานที่นี้เป็นที่แรกที่พวกเราเจอ
หลังจากจอดรถเลยค่ะ

เนื่องจากอยู่ใกล้กับ ททท. อยุธยาค่ะ


ข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ค่ะ

************************************

นอกจากนี้พวกเรายังได้ไปอีกสถานที่หนึ่ง
ซึ่งพวกเราจำชื่อไม่ได้จริง
ต้องขอโทษด้วยค่ะ

ความพิเศษของที่นี่คือ
มีการให้อฐิษฐานยกช้าง เพื่อเสี่ยงทายค่ะ

จริงๆแล้วการเสี่ยงทายแบบนี้มีหลายวัด 
หลายจังหวัดเลยค่ะ

ภายในอุโบสถค่ะ

ช้างที่ใช้ยกเพื่อเสี่ยงทายค่ะ

เอาล่ะค่ะ นี่เป็นวัดทั้งหมดที่พวกเราไปค่ะ
ลืมบอกไปว่า มื้อเที่ยงของพวกเราที่อยุธยา
พวกเราไปกันที่ร้าน 

ร้านนี้พี่ชายแนะนำมาค่ะ
อร่อยจริงๆ ด้วยค่ะ
อยู่บริเวณรอบเขตพระราชวังโบราณเลย

หากใครที่ชอบการท่องเที่ยววัด
หรือประวัติศาสตร์
"อยุธยา" เป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะค่ะ

จบแล้วค่ะสำหรับการบันทึกความทรงจำที่อยุธยา

พบกันใหม่สถานที่หน้านะคะ ^^

**********************************************






ไม่มีความคิดเห็น: