วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

จากกาญจนบุรี....สู่....อยุธยา2 (วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร)


พวกเรายังอยู่กันที่พระนครศรีอยุธยาค่ะ
ต่อจากตอนที่แล้ว ที่พระราชวังบางปะอิน (กดที่นี่ค่ะ)

จริงๆ แล้วการเดินทางวันนี้ของพวกเรา 
แม้ว่าจะมีเวลาแค่ 2 ชั่วโมง
และที่สำคัญเวลาหมดไปแล้ว ณ พระราชวังบางปะอิน
แต่พวกเราก็ได้ขออนุญาติพี่สาว...
เพื่อขอไปเที่ยวสถานที่ถัดไปก่อนค่ะ
นั่นคือ

"วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร "



พี่สาวใจดีมากค่ะ อนุญาติพวกเรา
ที่สำคัญคือ... วัดแห่งนี้อยู่ใกล้กับพระราชวังบางปะอิน
เพียงแค่มีแม่น้ำกั้นกลางเท่านั้น
ที่สำคัญกว่านั้นคือ... เวลาจะเข้าชมพระราชวังบางปะอิน
พวกเราต้องเอารถไปจอดที่ลานจอดรถหน้าวัดแห่งนี้ค่ะ

เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลใดๆ ที่พี่สาวจะไม่อนุญาติค่ะ อิอิ


วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร 
เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร 
ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา 
เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต 
สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล
 เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน 
โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบโบสถ์ฝรั่ง 
เป็นศิลปะแบบกอทิก (Gothic)

การเดินทางไปวัดแห่งนี้
หากจอดรถไว้ที่ลานจอดรถที่บอกข้างต้น...
ต้องนั่งกระเช้าข้ามไปค่ะ


เมื่อขึ้นกระเช้า 
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ...

ตึกต่างๆ ทางฝั่งเดียวกับวัด
จะมีลักษณะคล้ายสถาปัตยกรรมของยุโรป
รวมถึงมีสีสันสวยงามเลยทีเดียวค่ะ



นั่งสักครู่ .... ก็ถึงฝั่งวัดค่ะ
กระเช้านี้ไม่มีค่าบริการนะคะ


แต่จะคิดเป็นน้ำใจของผู้ใช้บริการมากกว่า
ทางวัดจะมีตู้รับบริจาคไว้ให้ใส่เงินตามศรัทธาค่ะ


พวกเราสงสัยกันมากค่ะ ว่าใครเป็นผู้บังคับกระเช้า
แต่เมื่อมาถึงฝั่งตรงข้ามก็ได้เห็น...

พระภิกษุเป็นผู้บังคับกระเช้าค่ะ


ท่านจะนั่งอยู่ด้านบนของหอบังคับนี่ล่ะค่ะ

เอาล่ะค่ะ มาถึงวัดแล้วก็ลุยกันเลยค่ะ

สิ่งแรกที่เห็นเลยค่ะ...
ตู้ไปรษณีย์
ที่มีลักษณะออกไปทางยุโรป

จากนั้นก็เดินกันเรื่อยๆ 
ภายในวัดสวยงามและสะอาดมากเลยค่ะ


ลักษณะของอาคารต่างๆ ชมกันเพลินเลยค่ะ

อาคารในภาพบนนี้... 
พระตำหนักที่ประทับของ

"สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ"


มาถึงพระอุโบสถค่ะ
จริงๆ พวกเราเห็นพระอุโบสถตั้งแต่ตอนชมพระราชวังบางปะอินแล้ว
มองจากทางนั้นก็สวยค่ะ


พระอุโบสถของวัดนั้นสร้างเลียนแบบโบสถ์ในคริสต์ศาสนาค่ะ 



โดยภายในประดิษฐาน "พระพุทธนฤมลธรรโมภาส" 
เป็นพระประธาน ออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอ 
พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ 
โดยลักษณะที่ผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยม 
และศิลปะแบบตะวันตกเข้าด้วยกัน 
ซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายสามัญชน 
นอกจากนี้บริเวณฐานชุกชีก็มีลักษณะ
เหมือนที่ตั้งไม้กางเขนแบบโบสถ์ 
และฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าของพระประธานนั้น 
เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ที่ประดับด้วยกระจกสี


วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดไทยแห่งเดียวในประเทศ
ที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมแนวยุโรป

จากทางด้านหน้าวัดค่ะ
มองเห็นพระอุโบสถด้านหน้าเช่นกัน

หากหันหน้าเข้าพระอุโบสถ
ทางขวามือ พวกเราจะพบกับ.....

"ต้นพระศรีมหาโพธิ์"
เป็นต้นที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงปลูกไว้หน้าพระอุโบสถค่ะ

เมื่อเราเดินกลับไปยังกระเช้า
เราเลือกเดินทางขวาของพระอุโบสถค่ะ
เพราะตอนมาเรามาทางฝั่งซ้าย

พวกเราผ่านสุสานสวนหินดิศกุลอนุสรณ์ 
เป็นสวนหินสำหรับประดิษฐานพระอัฐิ
ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ 
เจ้าจอมมารดาชุ่มในรัชกาลที่4 และราชสกุลดิศกุล

และสิ่งนี้ค่ะ

นอกจากนี้....
ภายในวัดแห่งนี้ยังมี...
>พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
เป็นพระพุทธรูปทรงม้า
>หอพระพุทธศิลา เป็นหอพระภายในประดิษฐานพระพุทธศิลา 
ปางนาคปรกสมัยลพบุรี
>หอพระคันธารราษฎร์ เป็นหอพระภายใน
ประดิษฐานพระคันธารราษฎร์ ปางขอฝน

หลังจากเสร็จสิ้นการชมวัดแห่งนี้
พวกเราก็รีบนั่งกระเช้ากลับเลยค่ะ
เพราะพี่สาวของพวกเรารออยู่
และพี่ๆ ของพวกเรารอไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอร่อยกับพวกเราค่ะ

ไม่มีภาพตอนทานก๋วยเตี๋ยวเรือนะคะ
แต่มีภาพคือก่อนไปพระราชวังบางปะอินค่ะ

*** อ้างอิงข้อมูลจาก...


โดนไปเต็มๆ เลยค่ะ โดนรับน้องซะแล้ว อิอิ
ยังไงก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากนะคะ
ที่ให้การต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดีเลยค่ะ
^_______________^


ลากันไปด้วยภาพนี้ค่ะ....
ณ สนามบินดอนเมือง
พี่สาวดูแลพวกเราเป็นอย่างดี

จบ ทริปกาญจนบุรี อย่างสวยงาม
ได้ของแถมเป็นการเที่ยวชม พระราชวังบางปะอิน
และวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหารด้วยค่ะ

ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากๆ ค่ะ
สำหรับรถที่ให้ยืม
สำหรับอาหารแสนอร่อย
และทริปอันแสนสุดประทับใจ
ทำให้พวกเราได้แลนมาร์คแห่งใหม่
เพิ่มขึ้นเลยค่ะ

ติดตามกันต่อไปบันทึกฉบับหน้า....
เรื่องราวของการปั่น...เพื่อชีวิตค่ะ

*************************************




ไม่มีความคิดเห็น: