สวัสดีค่ะ
เมื่อช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม 2558 - 2 สิงหาคม 2558
พวกเรามีโอกาสได้ไปเที่ยว
สถานที่ที่ซึ่งพวกเราตั้งใจว่าจะไปกันนานมาแล้วค่ะ
บันทึกก่อนหน้า... เกาะละวะ จ.พังงา (กดที่นี่ค่ะ)
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า
"กาญจนบุรี" แอมเคยไปมาแล้วค่ะ
ตอนอายุประมาณ 8 ขวบ
ซึ่งตอนนั้นไปกับพ่อ แม่ และพี่ๆ หลานๆ
แต่ได้เที่ยวเฉพาะสะพานข้ามแม่น้ำแคว
และสุสานสัมพันธมิตร เท่านั้นค่ะ
ครั้งนั้นประทับใจมากๆ ค่ะ
ด้วยความที่เป็นคนสนใจในเรื่องของประวัติศาสตร์อยู่ไม่น้อย
รวมถึงเวลาไปเที่ยว ไปกับพ่อ
พ่อจะคอยเล่าเรื่องราวของสถานที่นั้นๆ ให้ฟัง
และบางเรื่อง... ยังค้างคาใจ...
เป็นที่มาที่ว่า... ทำไมแอมถึงต้องหาข้อมูล
ของสถานที่นั้นๆ ก่อนจะเดินทาง
เราจะรู้สึกดีนะคะ ถ้าเราไปในที่สักที่
แล้วเรารู้เรื่องราวของที่นั้นๆ ด้วย
และที่สำคัญ แอมไม่อยากไปถึงที่แล้วต้องพูดว่า
"ไม่เห็นมีอะไรเลย"
ทุกๆ สถานที่ล้วนมีเสน่ห์แตกต่างกันค่ะ
ถ้าเราค้นเจอ ... เราก็จะรู้ว่า ที่นั้นมีอะไรสักอย่างแน่นอน
^____________________^
ดังนั้นแน่นอน...การกลับมาที่กาญครั้งนี้
รูปเยอะ ความประทับใจเยอะ
อย่างแน่นอนค่ะ ^^
อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ
Blog นี้เป็นการเขียนบันทึกค่ะ
อะไรที่อยากเก็บไว้ในความทรงจำ
ก็จะอยู่ในนี้ทั้งหมดล่ะค่ะ
กลับมาอ่านอีกเมื่อไร จะได้รู้สึกเหมือนได้ไปที่นั่นจริงๆ
เอาล่ะค่ะ เริ่ม.....
ครั้งนี้พวกเรา 2 คนเดินทางโดยสายการบินไลออนแอร์
จากภูเก็ตไปดอนเมืองค่ะ
จากนั้นถึงดอนเมืองพี่ๆ ของพวกเรามารับค่ะ
และพวกเราก็ตั้งใจรบกวนพี่ๆ
โดยการขอยืมรถมาใช้ในการเดินทางครั้งนี้ค่ะ
สำหรับทริปนี้ ... มีเพื่อนสนิทแอมเดินทางไปด้วยกันค่ะ
เพื่อนๆ คนอื่นอย่าน้อยใจไปนะคะ
คนนี้เรียกได้ว่าสนิทที่สุด เพราะ.....
"สนิทตั้งแต่รุ่นพ่อค่ะ"
^___________^
พวกเรานัดเจอกันที่ปทุมธานีค่ะ
จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางเลย...
วันแรกพวกเราเดินทางไป สะพานข้ามแม่น้ำแคว
อ.เมือง จ.กาญจนบุรีค่ะ
เส้นทางตามภาพเลยค่ะ
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่นะคะ
ยิ่งเริ่มเดินทางใกล้เป้าหมายเท่าไร
เราก็ยิ่งเห็นอุปสรรคมากขึ้น
สิ่งที่พวกเราภาวนามาตลอด...มาแล้วค่ะ
ฝนกำลังจะตกแล้ววววววววววว
เอาล่ะค่ะ ผ่านฝนมาสักพัก
พวกเราก็ถึงตัวเมืองกาญจนบุรีค่ะ
พวกเราหาที่พักก่อนเลยค่ะ
สำหรับที่พักทั้ง 2 คืน เพื่อไม่ให้เสียเวลาท่องเที่ยว
พวกเราจองผ่าน agoda มาแล้วค่ะ
พวกเราพักกันที่ Bamboo House ค่ะ
โดยทั่วไป ใช้ได้เลยทีเดียว
พวกเราไม่เน้นที่พักนะคะ
จากระเบียงห้องค่ะ
พวกเราตั้งใจจองที่พักให้ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแควที่สุดค่ะ
และแน่นอนที่สุด เก็บของเสร็จก็เริ่ม...
ไปเที่ยวกันค่ะ อิอิ
พวกเราตั้งใจเดินไปสะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นที่แรก
แต่พวกเราก็ต้องหยุดตรงนี้ก่อนค่ะ
ห่างจากที่พักประมาณ 500 เมตร ค่ะ
ตอนนั้นที่พวกเราไปถึง เจ้าหน้าที่ใกล้จะปิดแล้วค่ะ
พวกเราเลยไม่เข้าไปด้านใน
สถานที่นี้ เป็นที่ที่แสดงเรื่องราวของสะพาน
และเครื่องมือ ยานพาหนะต่างๆ
ที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ
ถ่ายรูปกันนิดหน่อย แล้วไปกันต่อค่ะ
เดินมาอีกประมาณ 200 เมตร ก็เห็นภาพนี้
แอมถึงกับงง เพราะภาพที่จำได้ตอนที่มาครั้งก่อน
ลานตรงนี้โล่งมากกกกกกกกกกกกกกกกก
มีแต่ร้านขายพลอยอยู่ไม่กี่ร้าน
ยืนสักพัก ... เพื่อนบอก นั่นมันกี่ปีมาแล้ว ....
โอเคค่ะ อย่าไปนับให้เสียเวลาเลยค่ะ
คิดในใจ... ประมาณ 20 ปี เอ๊งงงงงงงงงงงงงงง หึหึ
คุณป้าท่านนี้ขายมะพร้าว มีบริการขูดเนื้อมะพร้าวฟรีด้วย
ยืนดูลีลา ท่าทาง เพลินเลยค่ะ
เอาล่ะค่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่า
เริ่มจากชมหัวรถไฟกันก่อนค่ะ
เก็บภาพเรื่อยๆ ค่ะ
ภาพสีต่างกันเยอะเลย เพื่อนใช้กล้อง
แอมใช้ i5 อิอิ
ใกล้ๆ กัน มีทางรถไฟ
บริเวณนั้นเป็นสถานีรถไฟ "สะพานแควใหญ่" ค่ะ
ตื่นตาตื่นใจพวกเราจริงๆ
เห็นรถไฟกี่ทีก็ตื่นเต้น ก็ไม่เคยนั่งนี่คะ
นี่ไงคะ สถานี
สถานีเล็กๆ ในภาพ นักท่องเที่ยวกำลังซื้อตั๋วค่ะ
ยืนๆ เดินๆ สักพัก
ได้ยินเสียงแตรค่ะ
และแล้ว....................
รถไฟก็มาค่ะ อิอิ
ระหว่างจอดรถคน
นี่เลยค่ะ เก็บภาพไป....
จากนั้นค่ะ... พวกเราเห็นสะพานเริ่มโล่ง
เลยเดินกันไปที่สะพาน
สะพานนี้เป็นทางรถไฟเส้นเดียวกับ
ทางรถไฟสายมรณะ
รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ด้วยค่ะ
สะพานโล่งเลยค่ะ 555+
คนเยอะ แต่ก็ไม่เบื่อค่ะ
ไม่สนใจใครทั้งนั้น...
เพราะพวกเรามาเพื่อชม และเก็บภาพความประทับใจค่ะ
ปลอบใจตัวเองไปอย่างนั้นล่ะค่ะ
ทำใจเรื่องคนเยอะ ตั้งแต่ก่อนออกเดินทางแล้ว เหอๆ
สงสัยกันไหมคะ
ว่าสะพานข้ามไปไหน ที่เห็นนักท่องเที่ยวเดินกัน
เค้าเดินไปทำไม ในเมื่อมีแต่สะพาน
???????????
มีแน่นอนค่ะ ...
บนสะพานทางซ้าย
มองเห็นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่เลยค่ะ
ส่วนทางขวา เป็นแพของร้านอาหารค่ะ
วิวจากบนสะพาน อีกมุม
มุมนี้ มองเห็นที่พักของพวกเราด้วยค่ะ
เดินกันเรื่อยๆ เจอทางลงค่ะ
วัดเจ้าแม่กวนอิม ที่เห็นในภาพบนนั่นล่ะค่ะ
เดินชม เก็บภาพเรื่อยๆ ค่ะ
เดินสักพัก พวกเราก็เดินกลับค่ะ
สะพานโล่งของจริงล่ะค่ะ
อย่ารอช้า เก็บภาพค่ะ
ลงทุนขนาดนี้ ภาพสวยแน่นอนค่ะ อิอิ
พวกเราไม่ยอมไปจากตรงนี้ง่ายๆ หรอก
ยึดอาณาเขตเลยค่ะ
จากนั้นเมื่อดูเวลา พวกเรายังพอมีเวลาอีก
เลยขับรถออกมา ไปยังสถานที่นี้ค่ะ
(Kanchanaburi War Cemetery)
ต.ดอนรัก อ.เมือง
อยู่ด้านหลังสถานีรถไฟกาญฯ ค่ะ
งงกันรึเปล่าคะ ว่าทำไมถึงต้องมีสุสานนี้
ในเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นใช้ไทย
เป็นแค่ทางผ่านไปพม่า
ไม่ได้มีสงครามอะไรเลย
เอ๊ะ ... หรือว่ามีเหมือนในเรื่อง คู่กรรม
ฉากที่โกโบริโดนระเบิด
เอาล่ะค่ะ .... อย่าเดาตามแอมเลย
จริงๆ แล้ว ที่นี่เป็นสถานที่บรรจุกระดูกของเชลย
ที่โดนเกณฑ์มาเพื่อสร้างทางรถไฟ
ซึ่งที่นี่มีจำนวนกว่า 6,000 หลุม
ประวัติของที่นี่ค่ะ
ความสวยงาม ที่แฝงไว้ด้วยความโศกเศร้าค่ะ
เอาล่ะค่ะ เก็บภาพสักครู่หนึ่ง...
พวกเราก็เดินไปยังถนนคนเดิน ฝั่งตรงข้ามค่ะ
ตอนแรกกะว่าจะทานอาหารค่ำกันที่นั่น
แต่...... ไม่มีที่ถูกใจค่ะ
พวกเราเลยไปกันที่นี่...
รถคู่ใจของพี่ๆ ที่พวกเรายืมมาค่ะ อิอิ
ถ่ายคู่กับป้ายร้านเลย
ยังไม่ทันเข้าไปในร้านเลยค่ะ
พวกเราก็ถอดใจ... อดกันแล้วแน่ๆ
แต่ก็ยังเดินเข้าไปถามพนักงาน
พนักงานแนะนำให้ไปอีกร้าน ใกล้ๆ กัน
เป็นร้านในเครือเดียวกันค่ะ
ร้านนี้เลยค่ะ
พวกเราไม่ลืมเก็บภาพบรรยากาศมาค่ะ
ยามเย็น... ริมแม่น้ำแควใหญ่... ฟินสุดๆ ค่ะ
เอ๊ะ...หน้าตาไม่ฟิน สงสัยหิว อิอิ
อุปกรณ์ทุกอย่างมีโลโก้ของร้านค่ะ
ปลาลังทอดน้ำปลา
ปลาคังลวกจิ้ม
สั่ง 2 อย่างก็อิ่มล่ะค่ะ จานใหญ่มากกก
อิ่มแล้วพวกเราก็กลับเข้าที่พัก พักผ่อนกันค่ะ
บรรยากาศยามเช้าหน้าแพที่พัก ที่พวกเราไม่ได้พัก
แต่เป็นแพของ Bamboo House นั่นล่ะค่ะ
หลังจากนั้นก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ...
มุ่งหน้าไป .... เที่ยวกาญ...กันเถอะ ตอน 2
---------อ๊ะๆๆๆๆ ครั้งนี้ไม่ลืมค่ะ---------
สรุปค่าใช้จ่ายวันแรก....
1. น้ำมันรถ 1,000 บาท
2. ค่าห้องพัก 850 บาท
3. ค่าอาหารค่ำที่ The Loft 760 บาท
(แพงมากกกกกกก ที่ค่าน้ำและน้ำแข็ง)
4. ค่าขนมอื่นๆ 160 บาท
*** ค่าห้องพักและค่าอาหารหาร 3 ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น